พรรษาแรกมีพระอรหันต์เกิดขึ้นในโลก ๖๑ พระองค์
หลังจากเทศนาบิดา มารดา และภรรยาเก่า ของพระยสะให้ชื่นชมโสมมัสแล้วทรงลาเสด็จกลับไปสู่วัดมฤคทายวัน ครั้งนั้น สหายของพระยสะ ทั้ง ๒ คณะ คณะที่อยู่ในเมือง ๔ ท่าน และคณะที่ในชนบท ๕๐ ท่าน ครั้นได้ทราบว่าพระยสะออกบรรพาชา จึงพากันมายังสำนักพระยสะผู้สหาย พระยสะได้นำเพื่อน ทั้งหมดนั้น เข้าไปฝ้าพระทศพล แล้วกราบทูลนิมนต์ให้ประทานพระโอวาท พระบรมโลกนาถ จึงตรัส อนุปุพพิกถา และจตุราริยสัจจ์ ยังสหายของพระยสะ เหล่านั้นให้บรรลุพระโสดาปัตติผล แล้วโปรดประทาน อุปสมบทด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทา ต่อมา ครัสโอวาทนุศาสน์ให้สำเร็จพระอรหันต์ทั้งสิ้น ๕๔ องค์ ในพรรษานั้น มีพระอรหันต์เกิดขึ้นในโลก ๖๑ พระองค์
ออกพรรษาแล้วพระพุทธเจ้าทรงมีดำรัสให้ประชุมสงฆ์ว่า “ภิกษุ ทั้งหลาย! เราหลุดพ้นแล้วจากบ่วงเครื่องผูกมัดทั้งปวง แม้พวกท่านทุกรูปก็เหมือนกัน ขอพวกท่านจงจาริกไปประกาศพระศาสนาในชนบทต่างๆ เพื่อยังประโยชน์และความสุขให้เกิดแก่คนเป็นอันมาก จงแยกกันไปแห่งละรูป จงแสดงธรรมอันงานในเบื้องต้น ในท่ามกลาง และงามในที่สุดอันบริสุทธิ์ ที่เราได้ประกาศไว้แล้ว ภิกษุทั้งหลาย! คนในโลกนี้ที่มีกิเลสบางเบา แต่มีสติปัญญาที่พอจะฟังธรรมรู้ เรื่องนั้นมีอยู่ แต่เพราะเหตุที่คนเหล่านั้นไม่มีโอกาศที่จะได้ฟังธรรม จึงเสื่อมจากคุณความดีที่จะพึงได้รับ พวกท่านไปกันเถิด แม้เราก็จะไปยังตำบลอุรุเวลาเสนานิคม เพื่อประกาศพระศาสนา”
รุ่งขึ้นวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๒ พระสาวก ๖๑ รูปจึงแยกย้ายกันออกไปประกาศพระศาสนาตามพระดำรัสของพระพุทธเจ้า ส่วนพระพุทธเจ้าเสด็จกลับมายังตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ซึ่งเคยเป็นที่สถานประทับตรัสรู้ แล้วพระพุทธเจ้าเสด็จโดยลำพังพระองค์ ไปยังสำนักของนักบวชใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า “ชฎิลสามพี่น้อง”